ความรู้ที่ได้รับและการนำไปใช้
1.ได้เรียนรู้เกี่ยวกับภาษาของเด็กปฐมวัย
พัฒนาการทางการพูดของเด็กปฐมวัยจะมีลักษณะดังนี้
- ขั้นที่ 1 ขั้นปฏิกิริยาสะท้อน (Reflexive Vocalization) จะเกิดขึ้นกับเด็กในช่วงทารกแรกเกิดจนถึงอายุ ประมาณ 1 เดือนครึ่ง การเปล่งเสียงออกมาของเด็กในระยะนี้ไม่มีความหมายแน่นอน แต่เสียงร้องประกอบกับท่าทางการเคลื่อนไหวบ่งบอกถึงสภาวะร่างกายที่เด็กเผชิญอยู่ เด็กเริ่มหันไปทางเสียงพูดที่เด็กได้ยิน
- ขั้นที่ 2 ขั้นออกเสียงอ้อแอ้ (Babbling Stage) จะเกิดขึ้นกับเด็กในช่วง 3 –4 เดือน โดยอวัยวะการฟังเสียงและการเปล่งเสียง ได้แก่ หู ปาก ลิ้น เริ่มพัฒนามากขึ้น เด็กจะได้ยินทั้งเสียงของผู้อื่นและเสียงของตนเอง เด็กจะลองทำเสียงต่างๆ ที่ได้ยิน
- ขั้นที่ 3 ขั้นเลียนเสียง (Lalling Stage) เริ่มเมื่อเด็กอายุได้ 6 เดือน เป็นขั้นที่ประสาทรับฟังเสียงและประสาทตาพัฒนาขึ้นจนสามารถจับเสียงที่ผู้อื่นพูดได้ พร้อมกันนี้ประสาทตาจะสังเกตการณ์เคลื่อนไหวของริมฝีปากของผู้พูดด้วย เด็กสามารถเลียนเสียงของผู้อื่นและเลียนเสียงของตัวเองได้
- ขั้นที่ 4 ขั้นเลียนเสียงผู้อื่น (Echolalia) เริ่มเมื่อเด็กอายุประมาณ 9 เดือน เด็กจะลดการเลียนเสียงตัวเอง แต่จะเลียนเสียงผู้อื่นมากขึ้น เพราะระยะนี้เด็กจะให้ความสนใจต่อคำที่เด็กคุ้นเคยบางคำ และเริ่มสนใจต่อสิ่งต่างๆ รอบตัวภายในบ้านมากขึ้น จึงเห็นได้ว่าพัฒนาการด้านการพูดของเด็กจะพัฒนาจากการพูดอ้อแอ้เป็นการพูดโดยเลียนเสียงตนเองและผู้อื่นจาก 2 –3 คำต่อมาเด็กจะสามารถพูดเป็นประโยคยาวๆ ที่มีคำศัพท์และมีโครงสร้างไวยากรณ์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น สำหรับพัฒนาการทางภาษาแรกเริ่มและการสื่อสารของเด็กวัย 3 –5 ปีมีลักษณะ ดังนี้
- เด็กอายุ 3 –4 ปี สามารถใช้คำศัพท์ได้ประมาณ 2000 –4000 คำ ใช้ประโยคง่ายๆได้โดยใช้คำประมาณ 3 –4 คำ ชอบเล่นนิ้วมือเล่นจังหวะ เรียนรู้คำศัพท์ในเพลงหรือบทกลอนที่มีคำซ้ำๆ ชอบถามด้วยคำว่า ใคร อะไร ที่ไหน ทำไม
- เด็กอายุ 4 –5 ปี สามารถใช้คำศัพท์ได้ประมาณ 4000 –6000 คำ สามารถใช้คำที่เป็นนามธรรมมากขึ้น สามารถพูด 5 –6 คำ ต่อ 1 ประโยค สามารถร้องเพลงง่ายๆ ได้ และเล่นกับนิ้วมือมากขึ้น เล่าเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวและประสบการณ์ของตนเองได้ สามารถเลียนแบบท่าทางหรือพฤติกรรมของผู้ใหญ่ และสามารถควบคุมระดับเสียงในบางเวลา สามารถใช้โครงสร้างประโยคที่ก้าวหน้ามากขึ้น เช่น ประโยคที่แสดงความสัมพันธ์ ประโยคที่มีคำถามต่อท้าย เช่น เธอน่ารัก ใช่หรือไม่ สามารถเล่าเรื่องซ้ำ 4 –5 ลำดับขั้นหรือ 4 –5 ประโยคในหนึ่งเรื่อง
- เด็กอายุ 5 –6 ปี สามารถใช้คำศัพท์ได้ประมาณ 5000 –8000 คำ สามารถใช้ประโยคที่ซับซ้อนและสมบูรณ์มากขึ้น จำประโยคต่างๆ จากกลอนง่ายๆ กล่าวซ้ำได้อย่างสมบูรณ์ทั้งประโยค แสดงทักษะการสื่อสารตามรูปแบบอย่างสมบูรณ์ ใช้ภาษาท่าทางได้ สามารถเล่าเรื่องและเล่าเรื่องซ้ำด้วยการปฏิบัติ สนุกสนาน ในการทบทวนเรื่อง กลอนและเพลง สนุกสนานในการแสดงละครและเรื่องต่างๆ สามารถใช้คำพูดในการเสนอความคิดเห็น
พัฒนาการทางการอ่านของเด็กปฐมวัยมีดังนี้
- ขั้นที่ 1 Emergent Reading ดูหนังสือเรื่องที่ชอบ พูดข้อความในหนังสือด้วยภาษาของตน ทำท่าเหมือนอ่านหนังสือ จับใจความและตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อเรื่องโดยใช้ประสบการณ์เดิมของตนเอง ไม่สนใจข้อความตามลำดับของเรื่อง อ่านเรื่องสั้นๆที่บอกให้ครูบันทึกให้ อ่านและเขียนตัวขีดเขี่ย (Scribbles) อ่านตัวอักษรพยายามลอกหรือเขียนทับ
- ขั้นที่ 2 Advanced Emergent Reading กวาดตามองข้อความตามบรรทัด ดูข้อความที่มีหนังสือตัวใหญ่และเขียนเว้นคำ ตรวจสอบความถูกต้องโดยการเดา จากประสบการณ์เดิมและจากสิ่งชี้แนะ อ่านข้อความที่มีตัวอักษรและคำที่เห็นอยู่เป็นประจำ หาคำที่มีตัวอักษรคล้ายคลึงกัน โดยตรวจสอบจากจุดที่เริ่มต้นของประโยค
- ขั้นที่ 3 Emergent to Early Reading รู้จักคำที่มีอยู่ในชีวิตประจำวันเมื่อเห็นคำนั้นในบริบทหรือสิ่งแวดล้อมคาดเดาคำใหม่โดยดูรูปประโยค และความหมาย กวาดสายตาถูกทิศทางเมื่อมองข้อความที่คุ้นเคย ชี้และบอกชื่อของตัวอักษรส่วนใหญ่ได้ พิจารณาตัวอักษรบางตัวเพื่อจะบอกว่าคือตัวอะไร จำคำบางคำที่มีตัวพยัญชนะต้นเหมือนกันได้
- ขั้นที่ 4 Early Reading ชี้หรือกวาดตามองจุดเริ่มต้นและจุดจบของคำบางคำ ใช้เสียงพยัญชนะต้นที่รู้จักในการดาดเดา และตรวจสอบคำที่อ่าน บอกข้อสังเกตที่แสดงว่ารู้ว่าคำๆเดียวกันสามารถประสมกับคำอื่นกลายเป็นคำใหม่ได้ ลอกหรือเขียนสื่อความหมายโดยใช้ภาษาง่ายๆของตนเอง ใช้รูปประโยคที่ถูกต้องและกลับมาอ่านได้ เล่นเกมโดยใช้บัตรคำที่คุ้นเคยหรือเรียงบัตรคำให้เป็นประโยคได้ถูกต้อง ชี้หรือกวาดตามองจุดเริ่มต้นและจุดลงท้ายของประโยค
- ขั้นที่ 5 Advanced Early Reading คาดเดาข้อความจากสิ่งชี้แนะโดยดูพยัญชนะตัวแรกของคำประกอบกับความรู้เดิมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของรูปตัวอักษรกับเสียงตัวอักษร จำและตรวจสอบตัวอักษรที่สัมพันธ์กับเสียงของคำ ตรวจสอบคำที่อ่านด้วยการชี้ตัวอักษรในคำพร้อมๆ กับออกเสียงไปด้วย ใช้รูปและเสียงตัวอักษรเป็นหลักสะกดคำใหม่ที่ไม่รู้จักหรือคำที่ไม่แน่ใจ จึงเห็นได้ว่าการอ่านของเด็กปฐมวัยมีการพัฒนาเป็นลำดับขั้นตอนจากขั้นง่ายไปสู่ขั้นยาก ซึ่งพัฒนาการในแต่ละขั้นต้องอาศัยการเรียนรู้ความสัมพันธ์ของตัวอักษรกับความหมายของคำ ความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่อ่านเชื่อมโยงกับความรู้เดิมที่เด็กมีอยู่และความสนใจในการอ่าน รวมถึงประสบการณ์ที่เด็กได้รับจากกิจกรรมการอ่านในชีวิตประจำวันและจากสภาพแวดล้อมที่เด็กอาศัยอยู่
พัฒนาการทางการเขียนของเด็กปฐมวัยในแต่ละช่วงอายุมีความแตกต่างกันดังเห็นได้จากแนวคิดของโลเวนเฟลด์และบริเทน (Lowenfeld & Brittain) ได้แบ่งพัฒนาการการเขียนของเด็กปฐมวัยออกเป็น 2 ช่วงอายุ คือ ช่วงแรกอายุ 2 –4 ปี จะมีพัฒนาการการเขียนโดยหยิบจับ ขีดเขียน อย่างสะเปะสะปะ เพราะยังไม่สามารถบังคับมือได้ จนกระทั่งมือประสานสัมพันธ์กันดีและสามารถควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อมือกับตาได้ เด็กจะเริ่มเขียนลากเส้นที่สะเปะสะปะไปสู่เส้นโค้ง มีการวาดเส้นทั้งในแนวดิ่งและแนวนอน และลากเป็นวงกลม และช่วงที่ 2 อายุระหว่าง 4 –7 ปี จะมีพัฒนาการในการเขียนโดยการเขียนเริ่มมีความหมายชัดเจนยิ่งขึ้น เป็นการเริ่มต้นสื่อสารด้วยภาพเด็กเริ่มสร้างแบบในการวาดของตน แบบแผนหรือสัญลักษณ์แรกที่เด็กใช้ทำขึ้นได้แก่ รูปคน เพราะเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเด็กมากที่สุด
พัฒนาการทางการเขียนของเด็กปฐมวัยมีดังนี้
- ขั้นที่ 1 ขั้นขีดเขี่ย
- ขั้นที่ 2 ขั้นเขียนเส้นตรงวาดซ้ำๆ
- ขั้นที่ 3 ขั้นเขียนรูปแบบคล้ายตัวอักษร
- ขั้นที่ 4 ขั้นเขียนตัวอักษรและพยัญชนะต้นเริ่มมีความสัมพันธ์กับคำที่เขียน
- ขั้นที่ 5 ขั้นการเขียนสะกดคำตามกฎเกณฑ์ของตนเอง
- ขั้นที่ 6 ขั้นการเขียนสะกดคำถูกต้องตามหลักภาษา
จึงอาจสรุปได้ว่าพัฒนาการทางภาษาของเด็กปฐมวัยทั้งด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องการที่เด็กจะมีพัฒนาการทางภาษาในแต่ละด้านให้สูงขึ้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุของเด็กที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับประสบการณ์และสภาพแวดล้อมทางภาษาที่อยู่รอบตัวเด็ก ความสามารถในการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนจะพัฒนาไปพร้อมๆ กันและสัมพันธ์กันมากกว่าการเป็นไปตามลำดับขั้นตอน การศึกษาพัฒนาการทางภาษาของเด็กในระยะเริ่มแรกจะช่วยให้ครูและผู้ที่เกี่ยวข้องทราบว่าเด็กมีพัฒนาการทางภาษาในแต่ละด้านอยู่ในขั้นใดและขั้นต่อไปจะเป็นอย่างไรเพื่อจะปฏิบัติได้เหมาะสมกับพัฒนาการทางภาษาในระยะแรกเริ่มได้อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติการเรียนรู้ภาษาของเด็กปฐมวัยในแต่ละช่วงอายุ
2.ฝึกการคัดลายมือ ก-ฮ และสระ
3. ฝึกการอ่านออกเสียง คำต่างๆ

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น